คณะกรรมการความยั่งยืนและบรรษัทภิบาลประกอบด้วยกรรมการอิสระ จำนวน 3 ท่าน ดังนี้
| 1. ศาสตราจารย์พิเศษพิภพ วีระพงษ์ | ประธานกรรมการ |
| 2. นายประดิษฐ ศวัสตนานนท์ | กรรมการ |
| 3. ดร. สุปรียา ควรเดชะคุปต์ | กรรมการ |
โดยมีนายจุมพล สุวรรณวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานกฎหมายและกำกับดูแลธนาคาร ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นเลขานุการ
คณะกรรมการความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามขอบเขตความรับผิดชอบตามที่ได้รับมอบหมาย จากคณะกรรมการบริษัท โดยปี 2567 คณะกรรมการความยั่งยืนและบรรษัทภิบาลมีการประชุมรวม 12 ครั้ง และรายงาน ผลการประชุมต่อคณะกรรมการบริษัท สรุปสาระสำคัญดังนี้
- พิจารณาทบทวนนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อให้เป็นไปตามหลักการและแนวปฏิบัติในการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance Code : CG Code) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และหลักธรรมาภิบาลที่ดีของสถาบันการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยให้ความสำคัญกับหลักปฏิบัติในการกำกับดูแลกิจการที่ดี และการมีจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันและความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้น นักลงทุน ผู้มีส่วน ได้เสีย และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย อันเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และน่าเชื่อถือ
- พิจารณาทบทวนนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยบริษัทมีส่วนร่วม ในการดำเนินการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแนวทางของสถาบันธุรกิจเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility Institute) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- พิจารณาทบทวนนโยบายการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ รวมถึงกฎบัตรการกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อให้ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานได้ทราบถึงขอบเขต อำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบการกำกับดูแลการปฏิบัติงานให้เป็นไป ตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานและจรรยาบรรณของสายงานกำกับกฎเกณฑ์ทางการ
- พิจารณาต่ออายุสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต และเสริมสร้างวัฒนธรรม ทั้งภายในและภายนอกองค์กรด้านการต่อต้านการคอร์รัปชันอย่างเป็นรูปธรรม ทบทวนนโยบายต่อต้านการคอร์รัปชัน โดยมุ่งมั่น ที่จะดำเนินกิจการภายใต้หลักการของกฎหมาย ความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม เป็นไปตามแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมของหน่วยงานทางการและองค์กรต่างๆ เพื่อแสดงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นในการต่อต้านคอร์รัปชันทุกรูปแบบ
- พิจารณาทบทวนนโยบายการแจ้งเบาะแสและการร้องเรียน เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีระบบที่สนับสนุนการแจ้งเบาะแส ที่มีประสิทธิภาพ และตระหนักถึงความสำคัญในการให้ความคุ้มครองและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ให้ความร่วมมือในการ แจ้งเบาะแสและร้องเรียน รวมถืงสื่อสารนโยบายให้พนักงานทุกคนรับทราบเป็นประจำทุกปี
- ผลักดันให้บริษัทมีการดำเนินการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สังคม และ หลักธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance : ESG) อย่างเป็นรูปธรรม
บริษัทมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจและบริหารจัดการภายใต้กรอบธรรมาภิบาลที่ดี โปร่งใส ตรวจสอบได้ และตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างคุณค่า ให้กิจการดำรงอย่างยั่งยืน ส่งผลให้ปี 2567 บริษัทได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
- ได้รับคะแนนจากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน อยู่ในเกณฑ์ “ดีเลิศ” และได้รับตราสัญลักษณ์ จำนวน 5 ดวงต่อเนื่องเป็นปีที่ 10
- ได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ที่ระดับ “A” โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และได้รับการจัดอันดับเป็นหุ้นยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 4
- ได้รับประกาศนียบัตรด้านการดำเนินธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG100) โดยสถาบันไทยพัฒน์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9
- ได้รับประกาศเกียรติคุณ Sustainability Disclosure Recognition โดยสถาบันไทยพัฒน์
- ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ องค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก
- ได้รับประกาศนียบัตร Carbon Neutral Certificate
- ได้รับการรับรองการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร
รางวัลที่บริษัทได้รับสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมทั้งให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนและการมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
